ข่าวสำคัญที่ส่งผลต่อราคาทองคำในช่วง 3 วันที่ผ่านมา

1. อัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อในสหรัฐฯ

• ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัว โดยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ลดลง 0.5% ในเดือนเมษายน ซึ่งส่งผลให้ตลาดคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 .

• การคาดการณ์ดังกล่าวทำให้ ราคาทองคำปรับตัวขึ้น เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงทำให้ทองคำ (ซึ่งไม่มีผลตอบแทนจากดอกเบี้ย) น่าสนใจมากขึ้นสำหรับนักลงทุน.

2. ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD)

• ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) อ่อนค่าลง 0.1% ในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งทำให้ทองคำที่ซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์มีราคาถูกลงสำหรับนักลงทุนต่างชาติ ส่งผลให้ความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นและราคาปรับตัวสูงขึ้น .

3. ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์

• การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน ประสบความล้มเหลวหลังจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ไม่เข้าร่วมการประชุมที่ตุรกี ส่งผลให้ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์เพิ่มขึ้น และนักลงทุนหันมาถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย .

4. ความต้องการทองคำจากกองทุน ETF และธนาคารกลาง

• กองทุน ETF ทองคำ มีการไหลเข้าของเงินทุนอย่างต่อเนื่องในไตรมาสแรกของปี 2025 โดยมีการลงทุนเพิ่มขึ้น 170% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการทองคำที่สูงขึ้นจากนักลงทุนสถาบัน .

• ธนาคารกลางหลายประเทศ รวมถึงจีนและอินเดีย ยังคงซื้อทองคำเพื่อเพิ่มทุนสำรอง ส่งผลให้ความต้องการทองคำในตลาดโลกเพิ่มขึ้นและสนับสนุนราคาทองคำในระยะยาว .World Gold Council

5. การผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้า

• การเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และจีน มีความคืบหน้า โดยทั้งสองประเทศตกลงที่จะลดภาษีการค้าบางส่วนและหยุดการขึ้นภาษีเพิ่มเติมเป็นเวลา 90 วัน ส่งผลให้ความกังวลของนักลงทุนลดลง และมีการย้ายเงินทุนจากทองคำไปยังสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ เช่น หุ้น .Reuters

📊 สรุปผลกระทบต่อราคาทองคำ

• ราคาทองคำปรับตัวขึ้น เนื่องจากความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed และค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง.

• ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ และความต้องการทองคำจากกองทุน ETF และธนาคารกลางยังคงสนับสนุนราคาทองคำในระยะยาว.

• อย่างไรก็ตาม, การผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้า อาจทำให้ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยลดลงในระยะสั้น.