Risk Parity คืออะไร?
- Jetnippat
- 18 พ.ค.
- ยาว 2 นาที

Risk Parity คือกลยุทธ์จัดพอร์ตที่ไม่ได้วัดด้วยจำนวนเงินลงทุนแต่ใช้ “ระดับความผันผวน” ของแต่ละสินทรัพย์ในการถ่วงน้ำหนักเพื่อให้พอร์ตเติบโตอย่างสมดุลในทุกสภาวะเศรษฐกิจ — ทั้งเศรษฐกิจดี เงินเฟ้อ หรือวิกฤต
เป้าหมาย:ทำให้สินทรัพย์แต่ละประเภทในพอร์ต มีสัดส่วนความเสี่ยงเท่า ๆ กันโดยใช้กลยุทธ์จัดสรรสัดส่วนการลงทุน และใช้ leverage ในการปรับสมดุล
ทำไมต้องใช้ Risk Parity?
เพราะการกระจายเงินแบบทั่วไป (เช่น หุ้น 60% พันธบัตร 40%)ทำให้หุ้นแบกรับความเสี่ยงมากกว่า 90% ของทั้งพอร์ต
เช่น:
หุ้นมีความผันผวนสูง
พันธบัตรมีความผันผวนต่ำ→ แม้ใส่พันธบัตรไว้ 40% แต่หุ้นยังครองความเสี่ยงแทบทั้งหมด
Risk Parity แก้ปัญหานี้ โดยให้ “น้ำหนักตามความเสี่ยง” ไม่ใช่แค่ตามมูลค่าเงินลงทุน
หลักการพื้นฐานของ Risk Parity
1. วัดความเสี่ยง (Volatility) ของแต่ละสินทรัพย์
ใช้ค่า Standard Deviation (SD) หรือ Historical Volatility
2. ปรับสัดส่วนการลงทุน
ให้ “แต่ละสินทรัพย์มีสัดส่วนความเสี่ยงเท่ากัน”→ ถ้าสินทรัพย์ใดมีความเสี่ยงต่ำ ต้อง “เพิ่มสัดส่วน” หรือ “ใช้ Leverage”
3. จัดสรรน้ำหนักพอร์ตใหม่แบบสมดุลความเสี่ยง
เช่น:
หุ้น 20%
พันธบัตร 50%
ทองคำ 15%
สินค้าโภคภัณฑ์ 15%(แทนที่จะเป็น 60/40 แบบเดิม)
ตัวอย่างพอร์ตแบบ Risk Parity (สไตล์ All Weather Portfolio)
สินทรัพย์ | น้ำหนัก | เหตุผล |
พันธบัตรระยะยาว (TLT) | 40% | ให้ความเสถียรในภาวะเศรษฐกิจถดถอย |
พันธบัตรระยะสั้น (IEF) | 15% | ลดความผันผวน |
หุ้น (VTI, SPY) | 30% | เติบโตในภาวะเศรษฐกิจขาขึ้น |
ทองคำ (GLD) | 7.5% | ป้องกันเงินเฟ้อ-ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ |
สินค้าโภคภัณฑ์ (DBC) | 7.5% | ได้ประโยชน์เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว-เงินเฟ้อ |
พอร์ตนี้ออกแบบโดย Bridgewater สำหรับสภาพเศรษฐกิจ 4 แบบ:"ขาขึ้น / ขาลง" + "เงินเฟ้อ / เงินฝืด"
ข้อดีของ Risk Parity
ป้องกันการ “Overweight ความเสี่ยงในหุ้น” โดยไม่รู้ตัว
ทำงานได้ดีในหลายสภาพเศรษฐกิจ
มีความผันผวนน้อยกว่าพอร์ตแบบเดิม 60/40
สามารถเสริม Leverage ได้อย่างมีระบบ
ข้อจำกัดของ Risk Parity
ต้องคำนวณ Volatility และ Correlation อยู่เสมอ (ไม่เหมาะกับมือใหม่ที่ไม่ใช้เครื่องมือวิเคราะห์)
อาจต้องใช้ Leverage ในบางส่วน → เพิ่มความซับซ้อน
ต้อง Rebalance บ่อยเมื่อความเสี่ยงเปลี่ยน
หากทุกสินทรัพย์ตกพร้อมกัน (เช่นปี 2022) ก็ยังมีความเสียหาย
ใช้ Risk Parity อย่างไรในชีวิตจริง?
ทางเลือก:
ลงทุนในกองทุนที่ใช้หลัก Risk Parityเช่น AQR Risk Parity Fund, RPAR ETF
สร้างพอร์ตเอง โดยใช้ ETF ที่มีลักษณะตรงกับสินทรัพย์แต่ละประเภท
หุ้น: SPY, VTI
พันธบัตร: TLT, IEF
ทองคำ: GLD
โภคภัณฑ์: DBC
คำนวณ Volatility ด้วย Excel หรือ TradingView หรือ ใช้ EA ช่วยคำนวณ
บทสรุป: Risk Parity เหมาะกับใคร?
นักลงทุนสาย "มั่นคงระยะยาว"
ผู้ที่ต้องการป้องกันความเสี่ยงรุนแรงในตลาด
ผู้ที่ต้องการพอร์ตทนต่อทุกสภาวะเศรษฐกิจ
เหมาะอย่างยิ่งในยุคที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนสูง
นี่คือตัวอย่างกองทุนและ ETF ที่ใช้หลักการ "Risk Parity"
1. RPAR Risk Parity ETF (Ticker: RPAR)
ผู้ออก: RPAR Asset Management
จัดตั้ง: ปี 2019
จุดเด่น:
ใช้แนวคิด Risk Parity อย่างเป็นระบบ
กระจายในหุ้น, พันธบัตร, ทองคำ, สินค้าโภคภัณฑ์
ใช้ Futures และ ETF เพื่อควบคุม Leverage
เหมาะกับ: นักลงทุนทั่วไปที่ต้องการพอร์ตทนความผันผวนแบบ “All Weather”
2. AQR Risk Parity Fund (Ticker: AQRIX / QRMIX)
ผู้ออก: AQR Capital Management (บริษัท Quant ระดับโลก)
เปิดตัว: ปี 2010
โครงสร้าง: Mutual Fund (ไม่ใช่ ETF)
จุดเด่น:
ใช้การวิเคราะห์ความเสี่ยงเชิงคณิตศาสตร์
ใช้ Leverage อย่างคำนวณ
จัดพอร์ตหลายสินทรัพย์แบบ Risk-Weighted
ข้อควรระวัง: ค่าธรรมเนียมสูงกว่า ETF ทั่วไป
3. Invesco Balanced-Risk Allocation Fund (Ticker: ABRZX / BABDX)
ผู้ออก: Invesco
กลยุทธ์: ผสมหุ้น + พันธบัตร + สินค้าโภคภัณฑ์
แนวคิด: All Weather + Risk Parity
ผลตอบแทนย้อนหลัง: เน้นความเสถียร ไม่หวือหวา
4. Bridgewater All Weather Fund (สำหรับสถาบัน)
ผู้จัดการ: Bridgewater Associates
ลูกค้า: สถาบันระดับโลก เช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญ ธนาคารกลาง
จุดเด่น:
ต้นแบบแนวคิด Risk Parity
ไม่เปิดขายให้รายย่อย
เน้นความเสถียรระยะยาว
5. Cambria Trinity ETF (Ticker: TRTY)
แนวคิด:
ผสม Global Allocation + Risk Parity + Momentum
ใช้ ETF ทั่วโลก
Rebalance อัตโนมัติ
กองทุนไทยส่วนใหญ่อาจยังไม่ใช้ “Risk Parity” แบบเต็มรูปแบบ แต่เริ่มมีการนำแนวคิดเข้ามาปรับใช้
“อย่าถามว่าใส่เงินไปกี่เปอร์เซ็นต์ จงถามว่าแบกรับความเสี่ยงไปกี่เปอร์เซ็นต์”"Don’t ask how much money you’ve allocated — ask how much risk you’re carrying."
#projectcwf #ความรู้การเงิน #ลงทุน#RiskParity #ลงทุนอย่างเข้าใจ #วางพอร์ตแบบมืออาชีพ #เศรษฐกิจผันผวนก็ไม่หวั่น #AllWeatherPortfolio #บริหารความเสี่ยง




ความคิดเห็น